Botox

Botox คืออะไร

โบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) หรือที่รู้จักในชื่อโบท็อกซ์ (Botox) ซึ่งถูกนำมาใช้เพื่อรักษาทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน รวมถึงในวงการ Aesthetic โดยโบท็อกซ์นำมาใช้เพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าอย่างแพร่หลาย โดยโบท็อกซ์เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างมาจากแบคทีเรียชื่อ ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม Clostidium Botulinum  

การทำงานของ Botulinum toxin

โบทูลินัม ท็อกซิน ออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท และไปรบกวนการทำงานของสารเคมี Acetylcholine ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ เป็นผลให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้แบบชั่วคราว โดยจะเกิดผลเฉพาะกล้ามเนื้อมัดที่ได้รับการฉีด เริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน เห็นผลสูงสุดใน 1-2 สัปดาห์ และมีฤทธิ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือนเท่านั้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ชนิด และปริมาณของโบทูลินัม ท็อกซิน

ทำไมถึงเรียกว่า Botox

Botox เป็นชื่อทางการค้าของบริษัท Allergan ซึ่งเป็นที่คิดค้นนำเอา Botulinum toxin A มาใช้เพื่อรักษาริ้วรอยเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) เป็นยี่ห้อแรก  Botox จึงเป็นชื่อที่ถูกนำมาใช้และกลายเป็นคำเรียกที่รู้กันในปัจจุบัน

Botox ฉีดในกรณีใดได้บ้าง?

ที่ The Standard Aesthetic Clinic ทางทีมแพทย์ได้นำ Botox             มาใช้เพื่อปรับรูปหน้า แก้ไขและป้องกันริ้วรอยแห่งวัย ในกรณีต่างๆ ดังนี้

• โบท็อกซ์ลดกราม ช่วยในเรื่องปรับรูปหน้า ทำให้หน้ามีขนาดเล็กลง
• โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า เพื่อให้ผิวหน้ากระชับ กรอบหน้าชัดขึ้น หน้าดูมีมิติมากขึ้น
• โบท็อกซ์ลดริ้วรอย เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก รอยตีนการอบดวงตา รอยย่นระหว่างคิ้ว
• โบท็อกซ์ลดขนาดกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้อต้นแขน กล้ามเนื้อน่องขา

นอกจากนี้ Botox ยังนำมาใช้เพื่อรักษาโรคทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน โดย FDA (Food and Drug Administration) ได้อนุมัติให้ใช้สาร Botulinum toxin รักษาโรคต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น

• ภาวะเหงื่อออกมาก (Hyperhidrosis) เช่น ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติที่รักแร้ (Axillary hyperhidrosis) ภาวะการหลั่งเหงื่อออกมากผิดปกติที่ฝ่ามือ (Plamer Hyperhidrosis)
• ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity)
• ภาวะกล้ามเนื้อตาหดเกร็งผิดปกติ (Blepharospasm)
• การหดตัวผิดปกติของกล้ามเนื้อหูรูด (Sphincters)
• ภาวะตาเหล่ (Strabismus)
• โรคไมเกรน (Migraine)

สามารถแก้ไขปัญหา Office Syndrome ได้หรือไม่?

Office syndrome คือ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) จากการทำงานที่มีการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ หรืออยู่ในท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน ทำให้คนไข้มีปัญหาปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ แขน ทำให้คนไข้มีอาการปวดเรื้อรัง และกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ด้วยคุณสมบัติของ Botox ที่สามารถคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งได้ จึงนำ Botox มาใช้เพื่อแก้ไขปัญหา Office Syndrome ได้

ฉีด Botox ยี่ห้อไหนดี

ปัจจุบัน Botox ในวงการมีหลากหลายแบรนด์อย่างมากที่ได้รับการรับรองจาก FDA หรือองค์การอาหารและยา ทำให้คนไข้ไม่แน่ใจที่จะเลือกใช้ เช่น Botox (Onabotulinumtoxina; Allergan, Inc.), Dysport (Abobotulinumtoxina; Ipsen Ltd.), Xeomin (Incobotulinumtoxin A; Merz Pharmaceuticals GmbH) เป็นต้น โดยแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกันที่วิธีการทำให้ตัวยาบริสุทธิ์ ชนิดโปรตีน เทคโนโลยีที่ใช้ หรือขนาดของโมเลกุล เป็นต้น วันนี้ The Standard Aesthetic Clinic จึงได้นำข้อมูล Botox ที่ทางทีมแพทย์เลือกใช้ในคลินิกเพื่อให้คนไข้ได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมและใช้ในการตัดสินใจเพื่อรับการรักษาต่อไป

1. Allergan : ประเทศสหรัฐอเมริกา

สารที่ใช้ : Onabotulinumtoxin A

ดังที่กล่าวไปข้างต้น Allergan เป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อแรกที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติให้โบท็อกซ์ Allergan ใช้รักษารอยขมวดคิ้ว จึงเป็นยี่ห้อแรกของโลกที่นำมาใช้ในการรักษาริ้วรอยในวงการเสริมความงาน ทำให้ได้รับความนิยมอย่างหลากหลายทั่วโลก

จุดเด่นของโบท็อกซ์ 

• มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 5%
• อยู่ได้นานถึง 5-6 เดือน
• โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย
• ยากระจายตัวแคบ ออกฤทธิ์ได้แม่นยำ
• นิยมฉีดลดริ้วรอยบนใบหน้า ลิฟต์กรอบหน้า ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดเหงื่อบริเวณรักแร้
  
  

2. XEOMIN : ประเทศเยอรมัน

สารที่ใช้ : incobotulinumtoxin A

ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA ทางบริษัทได้มีการพัฒนา XTRACT Technology มาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้ลดการปนเปื้อนของโปรตีน โบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์สูง โอกาสดื้อยาน้อย และขนาดโมเลกุลของโบท็อกซ์มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็ยังคงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี

จุดเด่นของโบท็อกซ์ XEOMIN 

• มีความบริสุทธิ์สูง
• อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
• มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ XTRACT Technology
• สามารถฉีดในเคสดื้อโบท็อกซ์ได้
• โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย
• ยากระจายตัวดี
• นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่อง แขน

3. Dysport : ประเทศอังกฤษ

สารที่ใช้ : abobotulinumtoxin A

มีโครงสร้างโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์อเมริกา ยากระจายเป็นวงกว้าง เมื่อฉีดแล้วไม่กระจุกตัวในพื้นที่แคบ ผลิตโดยบริษัท IPSEN BIOPHARM LIMITED

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Dysport

• มีความบริสุทธิ์สูง
• อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
• โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย
• นิยมใช้ลิฟต์กรอบหน้า ปรับรูปหน้า ยกกระชับผิว ฉีดเฉพาะจุด เช่น น่องขา แขน รักแร้

ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม?

เนื่องจาก Botox ถูกใช้ในวงการการแพทย์มาอย่างยาวนาน ทำให้สามารถวางใจเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพเพื่อใช้ในการรักษาได้ แต่ปัจจุบันก็มีเรื่องที่ทำให้ต้องกังวล เช่น ภาวะการดื้อ  การใช้ Botox ปลอม หรือแม้แต่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดขึ้นหลังฉีด Botox ทาง The Standard Aesthetic Clinic จึงแนะนำให้คนไข้เลือกใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบที่มาของ Botox ได้ และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์และความพึงพอใจสูงสุด

หากสนใจเข้ารับการรักษา Program Botox สามารถติดต่อและนัดคิวเพื่อรับคำปรึกษากับทางทีมแพทย์ The Standard Aesthetic