กุญแจสำคัญ ของความสวยที่ใครหลาย ๆ คนคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะผ่านการเสริมจมูก หรือหัตถการอื่น ๆ มาเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่า มีกุญแจสำคัญอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปอยู่ดี ซึ่งนั้นคือ การเติม ฟิลเลอร์คาง นั้นเอง
ที่เป็นตัวนำไปสู่ใบหน้าที่เรียวเล็ก ใบหน้าดูไม่สั้นมีสมมาตร ซึ่งเป็นการเพิ่มมิติให้กับใบหน้าง่าย ๆ โดยไม่ต้องศัลยกรรม ไม่ต้องพึ่งมีดผ่าตัด ไม่ต้องพักฝื้นให้เสียเวลา สามารถทำงานต่อได้แบบชิว ๆ เพียงแค่ใช้การเติมฟิลเลอร์คาง ที่ถือว่าเป็นหัตถการที่ปลอดภัยสูงมาก ด้วยการเติม HA ที่เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายเราเข้าไปให้คงรูป และยังสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้างอีกด้วย
แต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจว่า เป็นฟิลเลอร์ที่มี อย. ได้มาตรฐาน เป็นของแท้จากคลีนิกที่ได้รับมาตรฐานเท่านั้น วันนี้ 0000 จะพามาทำความรู้จัก ฟิลเลอร์คาง แบบเจาะลึกกับกันค่ะ
ฟิลเลอร์คาง คืออะไร
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิคแอซิด Hyaluronic Acid หรือ HA ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสารที่อยู่ในร่างกายตามธรรมชาติมาใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว คอลลาเจนและไฮยาลูรอน ที่ร่างกายจะสูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติเฉื่อย ไม่ทําให้เกิดการแพ้ มีความคงตัว และอยู่ในร่างกายได้เป็นเวลานาน อีกทั้งเสื่อมสลายไปเอง สารนี้ช่วยสร้างความตึงให้กับผิวหนังดูอ่อนเยาว์ เนื่องจากคอลลาเจนโปรตีนเสื่อมสภาพลงเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังจึงยุบตัวลง ความเหี่ยวย่น ริ้วรอย ร่องลึกจึงปรากฏ ฟิลเลอร์จึงทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวพยุงและเติมเต็มความชุ่มชื้นชั้นแนวกระดูก ซึ่งฟิลเลอร์เองก็สามารถฉีดได้หลายจุด เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือ ฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คาง คือ การนำสารเติมเต็ม หรือ HA ที่อธิบายข้างต้น ฉีดเข้าไปยังบริเวณคาง เพื่อเป็นการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย ดูมีมิติมากขึ้น โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด หรือพักฟื้นหลังทำ ไม่มีอาการบวมช้ำหลังทำ และฟิลเลอร์ยังสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายอีกด้วย แต่ที่สำคัญต้องจะต้องเลือกคลินิกที่มั่นใจว่าอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งคลีนิก 0000 ของเรา ได้รับรองตามมาตรฐาน มีทีมแพทย์ผู้เชียวชาญ พยาบาลวิชาชีพคอยดูแลให้คำปรึษาตั้งแต่ก่อนทำจนถึงหลังทำ จึงการันตีความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เข้ารับบริการค่ะ

ฟิลเลอร์คางแก้ปัญหาอะไร
- สามารถแก้ไขปัญหาคางบุ๋ม ทำให้รู้สึกว่าใบหน้าดูไม่เป็นมิตรดูดุ เมื่อฉีดจะทำให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น
- สามารถแก้ไขปัญหาคางสั้น หน้ากลม คางทรงตัดที่ทำให้ใบหน้าดูไม่เรียว หน้าดูอ้วนกลม ดูสั้น ให้หน้าให้ดูเรียว มีกรอบหน้า ดูมีมิติขึ้นได้
- สามารถแก้ไขปัญหารูปหน้าให้ดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้ใบหน้าสมส่วน ดูละมุนขึ้น
- สามารถแก้ไขปัญหาคางเบี้ยว ดูไม่สมมาตรกัน คางเบี้ยวหรือเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งมากกว่า โดยฉีดเพื่อปรับแนวกระดูกกรามให้ดูสมมาตรมากขึ้น
- สามารถแก้ไขปัญหาคางถอย ใบหน้าดูไม่สมมาตร ปากดูอูม ใบหน้าดูกลม ฟันไม่สบ เพื่อให้มีใบหน้าเรียวยิ่งขึ้น
ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร
ฟิลเลอร์คาง เป็นหัตถการที่เหมาะกับคนที่คางสั้น คางบุ๋ม คางถอย คางเบี้ยว คางตัด มีหน้าดูกลมอย่างชัดเจน หรือผู้ที่ใบต้องการให้ใบหน้าดูมีความเรียว ดูมีกรอบหน้าขึ้น มองแล้วดูมีมิติมากขึ้น โดยที่ไม่อยากผ่าตัด หรือพักฟื้นให้เสียเวลา และเหมาะสำหรับผู้ที่อยากอยากลองเสริมคางด้วยการผ่าตัดแต่ยังไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวต้องผ่าตัดแก้ไขออกเมื่อไม่พอใจกับผลลัพธ์ ฟิลเลอร์คางถือว่าตอบโจทย์มาก เนื่องจากฟิลเลอร์แท้ สามารถสลายไปได้เอง 100% โดยไม่ทิ้งสารอันตรายใด ๆ และมีความปลอดภัยที่สูงมาก
ข้อดี ข้อเสียของฟิลเลอร์คาง
ข้อดีของการฉีดที่คาง
- สามารถปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ใบหน้าดูวีเชฟ (V-Shape) อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- สามารถปรับคางให้ดูยาว เรียวขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งมีดผ่าตัด
- เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ โดยไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีแผลจากการทำ
- ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่นานในการทำ
- ฟิลเลอร์แท้มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากสามารถสลายไปได้เองตามธรมชาติโดยไม่มีสารตกค้างใด ๆ
ข้อเสียของการฉีดที่คาง
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีคางสั้นมาก ๆ
- ไม่สามารถเสริมคางให้มีความยาวเยอะมากได้เกิน 1 เซนติเมตร
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้คงอยู่ถาวรโดยไม่มีการเติมซ้ำ เนื่องจากฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจะไม่สามารถอยู่ได้ถาวร ปกติแล้วจะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ทำให้ต้องมีการเติมอยู่

ต้องฉีดกี่ cc เห็นผลทันทีไหม
ารฉีดฟิลเลอร์คาง จะเริ่มต้นที่การฉีด 1cc. หรือบางรายอาจใช้จำนวนตั้งแต่ 2-5 cc. โดยจำนวนปริมาณ จะขึ้นอยู่กับปัญหาของผู้ที่มารับบริการ ว่ามีความต้องการปรับเปลี่ยนรูปคางที่ต้องการไปในรูปแบบไหน และขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้ดูแลเคสนั้น ๆ อีกด้วยว่าปริมาณเหมาะสมหรือไม่
ฉีดแล้วอยู่ได้กี่เดือน
โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์คาง มีการคงสภาพอยู่โดยเฉลี่ยแล้วสามารถอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่นที่เลือกนำมาใช้ และระดับเอนไซม์ที่ย่อยสลายฟิลเลอร์อย่าง สารไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) คือเอนไซต์ที่พบได้ในร่างกาย
นอกจากนี้รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย เช่น บางรายมีนิสัยชอบนั่งเท้าคาง ชอบจับคางบ่อย ๆ การอาบน้ำอุ่นเป็นประจำทุกวัน ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ และอายุของฟิลเลอร์ด้วย ดังนั้นพฤติกรรมหรือนิสัยของเราก็สามารถทำให้ตัวฟิลเลอร์สลายไปได้ไวกว่านอื่น ๆ นั้นเอง
ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์คางทุกครั้ง ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะต้องกระทำการโดยผู้มีความรู้และชำนาญการ และในการฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้งไม่จำเป็นจะต้องใช้ปริมาณมากทีเดียว โดยสามารถทยอยเติมครั้งละนิด อย่างที่คนไข้ต้องการได้อย่างตรงจุด เพื่อการรักษาและผลลัพท์ที่ตรงจุดและออกมาน่าให้น่าพึงพอใจที่สุด
ฟิลเลอร์คางอันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์คาง ถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงมาก หากเลือกคลีนิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ ได้มาตรฐานถูกต้อง และผ่านการรับรองจาก อย.ไทย และจะมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังจากการใช้นั้นน้อยมาก ในส่วนใหญ่หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ในจุดที่ฉีดจะมีอาการบวมช้ำ รู้สึกเจ็บแต่ไม่ต้องกังวล เพราะทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พบได้ปกติ อาการดังกล่าวจะหายได้เองภายในระยะเวลา 1-2 วัน สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
ฟิลเลอร์คางสลายได้เองไหม หรือต้องขูดออก ?
การฉีดสลายฟิลเลอร์ (Dissolving Filler) จะสามารถสลายไปได้เองโดยที่ไม่ต้องขูดออกในกรณีที่หลังการฉีดฟิลเลอร์แล้วต้องการที่จะสลายออกสามารถทำได้ โดยจะต้องเป็นตัวฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid) เท่านั้นจึงจะสลายออกหมด โดยสามารถทำได้โดยเอมไซม์ Hyaluronidase ที่มีประสิทธิภาพสามารถย่อยสลายสารเติมเต็ม โดยฉีดเข้าไปบริเวณที่เราต้องการจะสลายหรือแก้ไขปัญหาในผลลัพธ์ของคนไข้ เช่น การฉีดในปริมาณที่มากเกินพอดีทำให้ดูเป็นก้อน ไม่เป็นธรรมชาติ หรือไม่ตรงตามความต้องการ ฉีดให้สลายกลับไปอยู่ในลักษณะเดิมก่อนฉีด
สำหรับคนที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมมา อาจจะเนื่องจากปัจจัยที่มีราคาถูกกว่าคลีนิกทั่วไป เห็นผลลัพธ์ทันทีเหมืนกันกับตัวฟิลเลอร์ของแท้ แต่หากปล่อยไว้ในระยะยาวทำให้แล้วจะเกิดการอักเสบ ซึ่งวิธีแก้ไขจะต้องทำการขูดฟิลเลอร์ออกเท่านั้น
การขูดฟิลเลอร์ คือ การรักษาอาการบวม อักเสบ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม ไม่สามารถสลายหายไปเองได้ตามธรรมชาติ และไม่สามารถใช้วิธีการฉีดให้ฟิลเลอร์สลายไปได้ เนื่องจากเป็นกลุ่มของฟิลเลอร์ถาวร ไม่ใช่กลุ่ม Hyaluronic Acid เมื่อทิ้งระยะยาวทำให้ เกิดเป็นก้อนแข็ง ในบางเคสอาจทำให้เนื้อตาย เกิดการอักเสบ ติดเชื้อตามมา จนสุดท้ายก็ต้องมาทำการแก้ไขด้วยการขูดฟิลเลอร์ด้วยการผ่าตัดนั่นเอง ซึ่งการผ่าตัดสามารถนำออกได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น (60-70%) ไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมด และต้องการทำการโดยแพทย์ผู้เชียวชาญเท่านั้น แต่ทางที่ดีที่สุดคือศึกษาข้อมูล เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้นดีกว่าค่ะ
หลังฉีดแล้วจะเป็นก้อนไหม
การฉีดฟิลเลอร์คาง แล้วเกิดเป็นก้อนแต่ไม่อักเสบ มักคลำได้เป็นก้อนบริเวณที่ฉีด อาจเกิดขึ้นได้จากในกรณีที่มีการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานฟิลเลอร์ปลอม หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่าน อย. หรืออาจการฉีดที่ปริมาณมากเกินความจำเป็น และการฉีดตื้นจนเกินไป ที่เกิดจากแพทย์ขาดประสบการณ์ในการฉีด ทำให้มีความชำนาญที่ไม่มากพอในการฉีดฟิลเลอร์คาง หรือไม่ได้เข้าใจในปัญหาของผู้มารับบริการอย่างแท้จริง ทำให้กะปริมาณฟิลเลอร์คางที่ไม่เหมาะสมได้ และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนนั่นคือการแสดงสีหน้า และพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การยิ้มเยอะ ๆ การพูดเยอะ ๆ การนั่งเท้าคาง การชอบจับหรือนวดบริเวณคาง
ดังนั้น หากเลือกฉีกฟิลเลอร์คางที่ 0000 แล้วสามารถวางใจได้เลย ว่าเป็นการฉีดด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และเครื่องมืออุปกรณ์ที่ได้รับรองมาตรฐานอย่างถูกต้องแน่นอนค่ะ
ฟิลเลอร์คาง vs เสริมซิลิโคน เลือกทำอันไหนดี ?
การเลือกระหว่าง ฟิลเลอร์คาง และ การเสริมซิลิโคนนั้น ขึ้นอยู่กับรูปหน้าของผู้รับบริการ เนื่องจากการเสริมซิลิโคนจะเหมาะกับผู้ที่มีคางสั้นมาก ๆ ที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ เพราะการฉีดสามารถเพิ่มขนาดคางให้ดูเรียวยาวขึ้นได้ไม่เกิน 1 เซนติเมตรเท่านั้น และในการฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ทำให้เกิดแผล ไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาไม่เกิด 1 ชั่วโมง ก็ทำให้รูปหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติได้นานถึง 1-2 ปี
ในขณะที่การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน จะเห็นผลได้ถาวร จะมีรอยแผลผ่าตัด และต้องใช้เวลาพักฟื้น แต่จะสามารถเลือกความยาวได้ตามต้องการ แต่อาจทำให้ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าที่ควร หากไม่พอใจกับรูปหน้าที่เสริมมาก็ต้องทำการผ่าตัดเพื่อแก้ไขอีกรอบหนึ่งนั่นเอง
Filler คาง บวมกี่วัน ช้ำไหม
หลังจากฉีดฟิลเลอร์คางแล้ว จะเกิดอาการบวมแดงได้เป็นปกติ แต่จะสามารถหายไปได้เองภายใน 2-7 วัน อาจเกิดรอยช้ำจากเข็มที่ใช้เป็นจุดเล็ก ๆ ได้และในบางรายอาจมีอาการปวด ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่พบได้ปกติ อาการดังกล่าวจะหายได้เองภายในระยะเวลา 1-2 วัน สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือ พาราเซตามอล (Paracetamol)
ฉีด Filler คาง ยี่ห้อไหนดี
อีกหนึ่งสิ่งที่ตัดสินใจยากไม่แพ้กับตอบตัดสินใจฉีด คือการเลือกยี่ห้อที่จะฉีดฟิลเลอร์คาง ซึ่งแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป เช่น เนื้อฟิลเลอร์ การกระจายตัว การยื่ดหยุ่น การอุ้มน้ำ และเทคนิคความชำนาญของแพทย์เฉพาะทางที่ต่างกัน ดังนั้นเราจึงรวบรวมฟิลเลอร์คางตัวตึงมาให้ค่ะ
- Restylane Perlane Lyft ฟิลเลอร์จากสวีเดน ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volux ฟิลเลอร์จากอเมริกา ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 18-24 เดือน
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์จากอเมริกา ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือน
- Belotero Volume ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์คาง ที่คลินิกไหนดี
การเลือกฉีดฟิลเลอร์คาง ควรเลือกคลีนิคที่ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เช่น เลือกคลีนิกที่สามารถตรวจสอบได้ แกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าได้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าฟิลเลอร์ตัวที่กำลังฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ และควรเลือกคลีนิคที่มีการให้ข้อมูลชัดเจนอย่างตรงไปตรงมา มีการดูแลเอาใจใส่ในเคสต่อเคสอย่างดี ทั้งก่อนและหลังทำ
เลือกคลีนิกที่ได้มาตรฐาน และมีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง มีใบอนุญาติที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน อุปกรณ์ที่พร้อมสำหรับการใช้งานอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงแพทย์จะต้องมีประสบการณ์ สามารถประเมินใบหน้าของคนไข้ได้อย่างตรงจุด ว่าควรใช้ปริมาณเท่าไหร่ ในการแก้ปัญหาของคนไข้แต่ละครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และน่าพอใจที่สุด
ก่อนฉีด Filler เตรียมตัวยังไง
การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- งดใช้ยาแก้ปวดต้านการอักเสบในกลุ่ม NSAIDs (เอ็นเสด) และแอสไพริน
- งดวิตามินและอาหารเสริม เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี น้ำมันอีฟนิงพริมโรส (Primrose) สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย 2 สัปดาห์ เพราะจะทำให้เลือดออกแล้วจะหยุดไหลยาก และลดการลดบวมช้ำ
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด หรือ 1-3 วันก่อนฉีด
- งดทายาหรือสกินแคร์ทุกชนิดที่เป็นการพลัดเซลล์ผิว เช่น AHAs, BHAs
- งดการทำเลเซอร์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- สุขภาพร่างกายปกติดี ไม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- หากมีแพ้ยาหรือโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนทำหัตถการ
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด ที่แพทย์แนะนำ
การปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น และคงอยู่นานขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือกดทับ บีบ นวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
- หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ถูกความร้อนโดยตรงเช่น การนั่งหน้าเตาร้อนๆ เมื่อต้องรับประทานอาหารปิ้งย่างหรือชาบู
- งดการออกกำลังกายอย่างหนักในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อลดการอักเสบ บวมแดงของฟิลเลอร์
- หลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ควรล้างหน้าด้วยความรุนแรงหรือใช้น้ำร้อนจัด และหลีกเลี่ยงสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
- ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อให้ตัวฟิลเลอร์ดูฟูเต็ม และอยู่ได้นานขึ้น
- ประคบน้ำแข็งบริเวณที่ฉีดในบริเวณที่มีอาการบวมช้ำ
- เลือกรับประทานอาหาร เช่น งดการรับประทานของหมักดองอย่างน้อง 1 สัปดาห์หลังฉีด
Q&A ทุกเรื่องก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
Q : ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ?
A : ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ชาบูที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ อาหารหมักดอง อาหารที่หวานจัดๆเพราะสามารถกระตุ้นการบวนการอักเสบได้ ให้ในระยะ 14 วันหลังทำ หรืออย่างน้อยที่สุดคือ 2 วัน
Q : อาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นยังไง ?
A : อาการแพ้ฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วมีอาการปวด บวมมากผิดปกติ ผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เปลี่ยนเป็นสีแดง และอุณหภูมิผิวอาจร้อนกว่าปกติ
Q : ฟิลเลอร์คาง หรือ เสริมคาง แบบไหนดีกว่ากัน ?
A : ฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับเคสที่มีปัญหาคางบุ๋ม คางตัด และเคสที่มีคางสั้นเล็กน้อยไม่เกิน 1 เซนติเมตร
แต่การเสริมคาง เหมาะสำหรับเคสที่มีคางสั้นมาก ๆ
Q : ฉีดฟิลเลอร์คนละยี่ห้อในตำแหน่งเดียวกันได้ไหม ?
A : สามารถฉีดได้ แต่ต้องให้เลือกคุณสมบัติของฟิลเลอร์เดียวกัน และต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์เจ้าของเคสเท่านั้น