The standard aesthetic clinic-02

ฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา ทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีด หลังฉีดเป็นอย่างไร [2024]

ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด เข้าไปบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของเรา ทำให้ใต้ตาดูชุ่มชื่นขึ้น ริ้วรอยเรียบเนียนและจางลง

ต่อให้นอนดึกแค่ไหนหน้าก็ยังดูสดชื่น ดูสุขภาพดีได้ หากใครที่อยากให้ใบหน้าดูสุขภาพดี ไม่โทรม ดูเด็กลงเหมือนคนที่ออกกำลังกายทุกวัน นอนวันละ 8 ชั่วโมง ต้องมาเริ่มทำความรู้จัก ฟิลเลอร์ใต้ตา

ใต้ตาเป็นจุดสังเกตที่เห็นได้ชัดบนใบหน้า การมีปัญหาใต้ตาจึงทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ดูโทรม ไม่สดชื่น เนื่องจากปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาดำคล้ำ ใต้ตาย่อยคล้อย มีถุงใต้ตา ริ้วรอยรอบดวงตา และยังสามารถเกิดได้ในทุกช่วงวัย เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น จากภูมิแพ้ การอดนอน การดูแลตัวเองที่ไม่มากพอแล้วยังมีอีกสาเหตุคือ การถ่ายทอดทางพันธุกรรมนั้นเอง ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหัตถการความงามที่ไม่ควรพลาด สำหรับคนที่ต้องการให้ใบหน้าดูอิ่มฟู ดูสุขภาพดี ดูสดชื่น ไม่ต้องรอพักฟื้น และเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด

ซึ่งการแก้ปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา นับว่าเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากไม่ทำให้เกิดการแพ้ และยังสามารถสลายไปได้เอง จึงสามารถนำมาแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ทั้งนี้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรคำนึงถึงปัจจัยสำคัญหลายอย่างให้มาก เช่น สารที่ฉีดต้องปลอดภัย และแน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) ที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง ที่สำคัญควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะต้องกระทำการโดยผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีเกี่ยวกับตัวฟิลเลอร์ ผลข้างเคียง ปริมาณของการฟิลเลอร์ใต้ตา และเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องแม่นยำเพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ไขใต้ตาลึก ใต้ตาดำคล้ำ ใต้ตาย่อยคล้อย มีถุงใต้ตา ริ้วรอยรอบดวงตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ?

       การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด  Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของเรามาใช้ทดแทน โดยจะทำการฉีดตัวฟิลเลอร์ เข้าไปบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา ทำให้ใต้ตาดูชุ่มชื่นขึ้น ริ้วรอยเรียบเนียนและจางลง บริเวณใต้ตาที่ดูคล้ำก็จะดูกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย

ปัญหาใต้ตา มีอะไรบ้าง

  • ใต้ตาคล้ำ ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ทำให้บริเวณใต้ตาดูคล้ำโทรม หรือมีเบ้าตาที่ดูลึก
  • ใต้ตาคล้ำที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการยุบตัวลงของกระดูก และชั้นไขมันที่อยู่บริเวณใต้ตา และเกิดการหย่อยคล้อยทำให้เกิดร่องน้ำตา
  • ใต้ตาคล้ำจากโรคภูมิแพ้ เนื่องจากการคันกระคายเคืองบริเวณรอบดวงตา จะไปกระตุ้นสารต้าน Histamine ในร่างกายให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัวมากกว่าคนทั่วไป การขยี้ตาแรงเกินไปทำให้เกิดการอักเสบ และทำลายเส้นเลือดบริเวณผิวรอบดวงตา ส่งผลให้บริเวณรอบดวงตามีสีที่คล้ำขึ้น
  • ใต้ตาคล้ำจากการอดนอน การพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากเส้นเลือดรอบดวงตาเกิดการขยายตัวทำให้กิดรอยคล้ำขึ้น
  • ใต้ตาคล้ำจากไม่ได้ทาครีมกันแดด เนื่องจากการโดนแสงแดดจัดแรง ๆ สามารถทำลายผิวบริเวณใต้ตาได้
  • ใต้ตาคล้ำจากการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เนื่องจากเกิดการทำลายคอลลาเจนใต้ตาได้

ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยอะไรได้บ้าง

       หากอยากเริ่มเข้าวงามความงามแล้ว สิ่งแรก ๆ ที่แนะนำคือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งถือว่าเป็นการเสริมความงามที่สามารถตอบโจทย์ได้ดี และนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากปลอดภัย และยังเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ โดยฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถช่วยได้หลายเรื่อง เช่น

  • ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ
  • ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา
  • ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา
  • ช่วยแก้ปัญหาการย่อยคล้อยบริเวณใต้ตา เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาเบ้าตาลึก

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายมั้ย

       การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการทำหัตถการที่มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน แต่ต้องทำการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น และสารที่ฉีดต้องปลอดภัย และแน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) แท้ที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้องเท่านั้น เนื่องจากสามารถสลายออกตามธรรมชาติได้ใช้ระยะเวลา 8-12 เดือน ที่สำคัญก่อนทำควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะต้องกระทำการโดยผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีเกี่ยวกับตัวฟิลเลอร์ ผลข้างเคียง ปริมาณของฟิลเลอร์ และเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องแม่นยำเพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องทำการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และสารที่ฉีดต้องปลอดภัย

ใต้ตาแบบไหนควรฉีด แบบไหนไม่ควรฉีด

ใต้ตาแบบไหนควรฉีด ?

  • ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา ร่องใต้ตา ขอบตาดำ
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ มีการย่อยคล้อยบริเวณใต้ตา
  • ผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึก มีร่องน้ำตา

ใต้ตาแบบไหนไม่ควรฉีด ?

  • ผู้ที่มีถุงใต้ตาขนาดใหญ่
  • หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด โรคความดันโลหิตสูง
  • ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วเลือดหยุดยาก ฝกช้ำง่าย
  • ผู้ที่มีโรคติดต่อบริเวณที่ฉีด
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะวิตามินหรือแร่ธาตุเกิน เช่น ภาวะธาตุเหล็กเกิน
  • ผู้ป่วยภาวะพร่องเอนไซม์ หรือภาวะเม็ดเลือดแดงแตก (G6PD Deficiency)

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา VS ฉีดไขมันใต้ตา

       การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการใช้สาร Hyaluronic Acid ฉีดเข้าไปบริเวณใต้ตา ใช้เวลาไม่นาน ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ โดยจะมีอาการบวมจากรอยเข็มหลังฉีดประมาณ 3-4 วันและจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดประมาณ 7-14 วันหลังฉีด และสามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติ

การฉีดไขมันใต้ตา เป็นการใช้ไขมันของตัวเองจากบริเวณอื่นฉีดเข้าไปบริเวณใต้ตา ทำให้ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการแพ้ แต่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยการฉีดไขมันใต้ตาต้องมีการตรวจเช็คไขมัน การดูดไขมัน การปั่นไขมันเพื่อแยกเป็นของเหลว และหลังฉีดจะมีแผลบริเวณที่ดูดไขมัน และบวมจากรอยเข็มหลังฉีด โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน แต่ต้องทำซ้ำหลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี และทำให้ผิวไม่เรียบเนียนได้เนื่องจากการดูดไขมัน

ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง ?  

  •  ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา
  • ผู้ที่ไม่ต้องการพักฝื้น ต้องการผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาดำ ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ จากโรคภูมิแพ้ จากการนอนน้อย หรือพันธุ์กรรม
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา
  • ผู้ที่มีปัญหาการย่อยคล้อยบริเวณใต้ตา เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึก มีร่องน้ำตา เนื่องจากเอ็นที่อยู่บริเวณรอบดวงตาเกิดการหย่อนลงตามอายุ

ข้อดี ข้อเสียการฉีดใต้ตา

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการที่แก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างที่ตรงจุดที่สุด ไม่มีแผล และสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ
  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น ใช้เวลาน้อย ขั้นตอนไม่ซับซ้อน
  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่ปลอดภัย และได้รับการยอมรับ ไม่มีปัญหาเรื่องของสารตกค้างในร่างกาย สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้มาตรฐานจะไม่สามารถอยู่ได้ถาวร ปกติแล้วจะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ดังนั้นทำให้ต้องมีการเติมอยู่ เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถสลายได้เอง ซึ่งในแต่ละคนจะอยู่ได้นานไม่เท่ากัน

 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน

ข้อสงสัยหลังฉีด กี่วันเห็นผล บวม เป็นก้อนเกิดจากอะไร ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีดว่าใบหน้าจะดูชุ่มชื่นขึ้น และดูอ่อนเยาว์ขึ้น จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนที่สุดโดยเมื่อผ่านไป 7-14 วันหลังฉีด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ?

อาการการบวมที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นสิ่งที่พบได้ปกติ อาการดังกล่าวจะหายได้เองภายในระยะเวลา 2-7 วัน สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)

ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน ?

การคงอยู่ของฟิลเลอร์ มีระยะเวลาขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองหลังฉีด แลขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อที่ใช้ฉีด บางยี่ห้อสามารถอยู่ได้ 8-12 เดือน และในบางยี่ห้อสามารถอยู่ได้ถึง 8-24 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วทำไมเป็นก้อน ?

สาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน มีสาเหตุมาจากการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม เช่น การนำฟิลเลอร์เนื้อแข็งมาฉีดบริเวณใต้ตา อีกสาเหตุคือการใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง ใช้ปริมาณที่มากเกินความจำเป็น หรือไม่มีความชำนาญในการฉีด และอีกสาเหตุคือการใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นของปลอม ไม่ผ่าน อ.ย. ดังนั้นควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยลดริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา
Share the Post:

บริการอื่นๆ

รีวิวโปรแกรม Morpheus8 ที่ The Standard Clinic

รีวิวโปรแกรม Morpheus8 กู้ผิวยับ หย่อย ย้วยให้กลับมาเฟียซ

Read More

รีวิวทำ Morpheus8 พี่จูดี้มากู้ผิวยับ ยกผิวหย่อนให้กลับมาตึงกระชับ

Read More

หน้าไม่เรียบเนียน เกิดจากอะไร? วิธีแก้ผิวไม่เนียนแบบรวดเร็ว

Read More
Scroll to Top