ดริปวิตามิน เป็นหนึ่งในกระแสติดเทรนด์ทางลัด เพื่อผิวพรรณสดใสสุขภาพดี ที่โด่งดังในรอบหลายปีที่ผ่านมา หลาย ๆ คนมักพบกับปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่ผ่องออร่า สีผิวไม่สม่ำเสมอจากแดด ผิวแห้ง ทาครีมหรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณเท่าไหร่ก็ไม่หาย แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้ชีวิตประจำวันของเราถือเป็นปัจจัยอีกอย่างที่ทำลายผิวทำให้เกิดความเสื่อมของผิวโดยไม่รู้ตัว ซึ่งตัวช่วยที่จะช่วยฟื้นฟูผิวที่เห็นผลได้เร็วและชัดเจนอย่างการดริปวิตามิน หรือการฉีดวิตามินผิวใส หนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมติดเทรนด์สุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมขณะนี้ จึงถือเป็นทางเลือกที่นับว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว ที่จะได้ทั้งความงามแก่ร่างกาย และสุขภาพอีกด้วย
การดริปวิตามิน จะต้องกระทำการโดยผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีเกี่ยวกับตัวยา ผลข้างเคียง และเทคนิคการบริหารยา การควบคุมอัตราความเร็วของสารน้ำ ควรเลือกทำในคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาลวิชาชีพดูแลสังเกตอาการระหว่างที่ดริปวิตามิน และเครื่องมือที่พร้อมจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยไร้กังวล

ดริปวิตามิน คืออะไร
วิตามิน (Vitamin) ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม สารอาหารรอง (micronutrients) เป็นสารอาหารที่มีความจําเป็นต่อร่างกาย เพื่อหล่อเลี้ยงให้สุขภาพให้ดีอย่างเป็นระบบ แต่ไม่ได้ให้พลังงานหรือใช้สร้างเนื้อเยื้อของร่างกายโดยตรง ร่างกายต้องการใช้ในปริมาณน้อย แต่ก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกาย มีด้วยกันอยู่หลายชนิด มีแหล่งที่มาและโปรตีนที่แตกต่างกันออกไป และเกือบทุกชนิดสังเคราะห์ไม่ได้ในร่างกาย แต่บางชนิดสังเคราะห์ได้ แต่ไม่เพียงพอ
ดริปวิตามิน (IV Drip) หรือ วิตามินแบบฉีด (Vitamin Drip) เป็นวิธีเช่นเดียวกับการให้น้ำเกลือ คือ การให้สารวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ สารที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญของผิวผ่าน IV (Intravenous injection) หรือการให้วิตามินเข้มข้นหรืออาหารเสริมผ่านโดยตรงผ่านทางหลอดเลือดดำ ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ดีกว่าโดยไม่มีสารตกค้าง ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง เป็นการเพิ่มปริมาณสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ บำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับผิวพรรณจากภายใน เมื่อยิ่งร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้กลไกของร่างกายทำงานอย่างเป็นระบบส่งผลถึงผิวพรรณมีสุขภาพดีไม่โทรม

ดริปวิตามิน สำคัญยังไง เหมาะกับใคร ?
ความสำคัญของการดริปวิตามิน คือ การให้วิตามินผิวจะสามารถช่วยได้ในหลายเรื่อง ขึ้นอยู่กับชนิดของวิตามินที่ใช้เป็นส่วนผสมลงไป และขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เข้ารับบริการ โดยในส่วนใหญ่หลัก ๆ มักจะใช้ในเรื่องการกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวสว่างกระจ่างใส เสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย การทำงานของเม็ดสีลดลง ลดจุดด่างดำ ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
ดริปวิตามิน เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่ผ่องออร่า สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวแห้ง
- ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงผิวให้กระจ่างใสขึ้น ดูสุขภาพดีมีออร่าอย่างเร่งด่วน
- ผู้ที่มีร่างกายมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- ผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ ไม่ค่อยสดชื่น สมองล้า สมองไม่แล่น ปวดไมเกรน
- ผู้ที่ทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ จนผิวพรรณโทรม
- ผู้ที่ขาดวิตามินและแร่ธาตุ เช่น เล็บเปราะ มีแผลในปาก
- ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ เช่น คัดจมูกง่าย เป็นหวัดบ่อย ไซนัสเรื้อรัง ลมพิษเรื้อรัง ผิวแพ้ง่าย
- ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
ดริปวิตามิน ไม่เหมาะกับใคร ?
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด โรคความดันโลหิตสูง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ยังประคองอาการให้คงที่ไม่ได้ หรือยังต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
- ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน
- ผู้ป่วยโรคตับ โรคไต โรคหัวใจ
- ผู้ป่วยที่มีภาวะวิตามินหรือแร่ธาตุเกิน เช่น ภาวะธาตุเหล็กเกิน
- ผู้ป่วยภาวะพร่องเอนไซม์ หรือภาวะเม็ดเลือดแดงแตก (G6PD Deficiency)
ดริปวิตามิน แตกต่างกับการรับประทานแบบเม็ด ต่างกันอย่างไร ?
การดริปวิตามิน หรือการฉีดวิตามิน สามารถดูดซึมผ่านจะเป็นการให้วิตามินผ่านไปทางหลอดเลือดดำ ซึ่งปริมาณของวิตามินจะถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และได้ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย และกระบวนการดูดซึม หลังจากนั้นจะถูกขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ โดยไม่มีการสะสมหรือตกค้างอยู่ในร่างกายอยู่แล้วส่งผลให้การดริปวิตามินค่อนข้างรวดเร็ว และสามารถเห็นผลลัพธ์ไวกว่าเยอะมาก
การรับประทานในรูปแบบเม็ด เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ววิตามินจะต้องผ่านการทำงานของระบบร่างกาย โดยผ่านการทำงานของตับหลายรอบจุงส่งผลให้ปริมาณยาที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย น้อยกว่าการดริปวิตามิน และหากมีการรับประทานวิตามินหลาย ๆ ชนิด ก็จะส่งผลให้การทำงานของตับในระยะยาวได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามควรทำควบคู่กันไปเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งนี้ควรรับประทานในรูปแบบเม็ดอย่างพอเหมาะ และควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอก่อนรับประทาน

ดริปวิตามิน อันตรายไหม อยากดริปวิตามิน อย่างปลอดภัยต้องรู้อะไรบ้าง?
การดริปวิตามิน มักไม่พบผลข้างเคียงหลังการฉีด จะพบได้ค่อนข้างน้อยมาก ๆ เช่นการเกิดผื่นคันคล้ายการแพ้อาหารทะเล รอบดวงตาบวมเล็กน้อย ในบางรายที่พบได้น้อยมาก ๆ คืออาการหายใจลำบาก โดยส่วนใหญ่คนปกติที่เข้ารับการดริปวิตามิน จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเลย เนื่องจากการให้วิตามินผ่านไปทางหลอดเลือดดำไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย และกระบวนการดูดซึม ซึ่งหลังจากนั้นจะถูกขับออกมา โดยไม่มีการสะสมหรือตกค้างในร่างกาย ส่วนใหญ่ที่มักพบได้ทั่วไปคือ รอยช้ำหรือจุดแดงที่เกิดจากเข็มที่ฉีดเพียงแค่นั้น
หากเลือกรับบริการจากผู้ที่มิใช่แพทย์ พยาบาล ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (Intravenous injection/IV) หรือเลือก ที่คลีนิคหรือสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้การรับรองจากองค์การอาหารและยา ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงหลังฉีดได้ เช่น ผื่นขึ้น คลื่นไส้อาเจียน หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ความดันต่ำ ช็อกหมดสติ และอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ทั้งนี้ควรต้องเลือกเข้ารับบริการในคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีเครื่องมือที่พร้อม และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาลวิชาชีพดูแลสังเกตอาการ และดูแลอย่างใกล้ชิดระหว่างที่ดริปวิตามิน เนื่องจากต้องกระทำการโดยแพทย์ พยาบาลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีเกี่ยวกับตัวยา การควบคุมอัตราความเร็วของสารน้ำ ผลข้างเคียง จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยไร้กังวล

ดริปวิตามิน ช่วยอะไรได้บ้าง ?
การดริปวิตามินผิว มีประโยชน์หลากหลายแตกต่างกันออกไป ตามสูตรวิตามินที่ผสมในแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับร่างกายและผู้เข้ารับบริการ ดังนี้
- บำรุงร่างกาย
- เสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ป้องกันหวัด ภูมิแพ้
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว
- บำรุงผิวให้เนียนกระจ่างใส ผิวนุ่มลื่นเรียบเนียน
- บำรุงให้ผิวดูมีออร่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูสุขภาพดี
- บำรุงเล็บ เส้นผม

ต้องบ่อยแค่ไหน ?
การดริปวิตามินผิวที่จำเป็นสำหรับร่างกาย ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน โดยแนะนำที่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องกัน 3-4 สัปดาห์ และจะ จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ หากอยากได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ควรทำต่อเนื่องกัน เมื่อบำรุงอย่างต่อเนื่องได้ถึงจุดหนึ่งแล้วรู้สึกพึงพอใจกับสภาพผิวแล้ว สามารถเว้นระยะห่างได้ เช่น 2-4 สัปดาห์ ต่อครั้ง จะรู้สึกได้ว่าผิวหนังมีความอ่อนนุ่มลื่น ผิวใสขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ยิ่งเวลาออกแดดจะพบว่าผิวจะดูออร่ามากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ขั้นตอนการดริปวิตามิน
การดริปวิตามินผิว มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน ใช้ระยะเวลาโดยรวมแล้ว มักไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ผู้เข้ารับบริการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต ซักประวัติและประเมินเบื้องต้นทั่วไป เช่นประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว
- เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวส่วนที่จะฉีดวิตามิน โดยส่วนมากจะเป็นตำแหน่งข้อพับแขน
- เริ่มเจาะเข็มเข้าหลอดเลือดดำ และฉีดวิตามินผิวเข้าหลอดเลือด
- หากเป็นแบบฉีดด้วยเข็มไซริงค์ แพทย์หรือพยาบาลจะค่อยๆดันตัวยาวิตามินเข้าสู่หลอดเลือดจนหมดอย่างช้า ๆ
- หากเป็นการให้ผ่านถุงน้ำเกลือ หลังจากเจาะเข็มเชื่อมถุงน้ำเกลือเสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการสามารถนั่งหรือนอนรอจนกว่าวิตามินจะเข้าหลอดเลือดจนหมดได้
- หลังจากตัวยาวิตามินที่อยู่ในไซริงค์หรือในถุงน้ำเกลือหมด เจ้าหน้าที่จะนำเข็มออกให้ แล้วปิดผิวส่วนที่เจาะเข็มด้วยผ้าก๊อซหรือพลาสเตอร์ จากนั้นผู้เข้ารับบริการสามารถกลับบ้านได้

สิ่งที่ควรรู้ก่อนดริปวิตามิน มีอะไรบ้าง ?
แจ้งโรคประจำตัว ประวัติสุขภาพ ประวัติแพ้ยา แพ้อาหาร แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบถึงยาประจำตัวที่กำลังรับประทานอยู่ทุกชนิด เพื่อป้องกันผลกระทบหลังฉีด และต้องเข้ามาปรึกษาและประเมิน ว่าต้องการให้การฉีดวิตามินผิวช่วยปรับปรุงสุขภาพในด้านใดเนื่องจากสูตรและปริมาณวิตามินที่ผสมลงไปในการดริปวิตามินแต่ละคนจะต่างกันออกไป ตามความต้องการ
ข้อปฏิบัติก่อน และหลังฉีด ต้องดูแลตัวอย่างไร ?
การเตรียมตัว และข้อปฏิบัติก่อนการดริปวิตามิน ดังนี้
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1-2วัน
- นอนหลับพักผ่อนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย
ข้อควรปฏิบัติหลังดริปวิตามิน ดังนี้
- ไม่สัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำเปล่า ให้เพียงพอต่อร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดจัด และทาครีมกันแดดและครีมบำรุงผิวเสมอ เพื่อปกป้องและรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-3 วัน
- มันออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ดริปที่ไหนดี
ตามที่กล่าวมาการดริปวิตามินผิว เมื่อเข้ามาปรึกษาแพทย์แล้ว การดริปวิตามินครั้งแรกก็จะต้องมีการคัดกรองสุขภาพก่อน ในบ้างสถาบันอาจมีการเจาะเลือด เพื่อดูความแข็งแรงของเม็ดเลือด ค่าน้ำตาล ค่าตับ ค่าไต เพื่อพิจารณาในการเลือกสูตรวิตามินขนาดและความเข้มข้นสูงที่เหมาะกับร่างกายของตัวเองได้ในครั้งถัด ๆ ไป ดังนั้นการเลือกคลีนิก หรือสถานพยาบาลใน การดริปวิตามิน จะต้องกระทำการโดยผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีเกี่ยวกับตัวยา ผลข้างเคียง และเทคนิคการบริหารยา ต้องเลือกทำในคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาลวิชาชีพดูแลสังเกตอาการระหว่างที่ดริปวิตามิน และเครื่องมือที่พร้อมจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยไร้กังวล